• ข่าว
  • ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับลูกค้า
  • ข่าว
  • ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับลูกค้า

ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับลูกค้า

นโยบายความเป็นส่วนตัว





ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า

บริษัท ออลล์ นาว โลจิสติกส์ จำกัด และ บริษัท ออลล์ นาว แมนเนจเม้นท์ จำกัด


1. บททั่วไป
บริษัท ออลล์ นาว โลจิสติกส์ จำกัด และบริษัท ออลล์ นาว แมนเนจเม้นท์ จำกัด (เรียกรวมกันและแทนกันว่า “บริษัทฯ”) 
ได้จัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า (“ประกาศฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทฯ มีการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือการดำเนินการอื่นใดกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (“การประมวลผล”) รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และระยะเวลาที่บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล


2. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ 
ชื่อบริษัท: บริษัท ออลล์ นาว โลจิสติกส์ จำกัด และบริษัท ออลล์ นาว แมนเนจเม้นท์ จำกัด
การประกอบธุรกิจ: ให้บริการโลจิสติกส์ (Logistics) ด้านการขนส่งและกระจายสินค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ด้านการบริหารจัดการคลังสินค้า ด้านการออกแบบโซลูชั่น และบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง
สถานที่ติดต่อ:  127 อาคารปัญจภูมิ 2 ชั้น 15 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120


3. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อมูลดังนี้ 
อีเมล: allnow_dpo@allnow.co.th
สถานที่ติดต่อ: หน่วยงาน Data Protection Office บริษัท ออลล์ นาว โลจิสติกส์ จำกัด และบริษัท ออลล์ นาว แมนเนจเม้นท์ จำกัด
127 อาคารปัญจภูมิ 2 ชั้น 15 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120


4. กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย

  1. ลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ใช้บริการหรืออาจจะใช้บริการจากบริษัทฯ ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ ผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับบริการของบริษัทฯ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรืองานสัมมนาที่บริษัทฯ จัดขึ้น ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัทฯ ผู้แจ้งเรื่องร้องเรียน หรือบุคคลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
  2. ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคลากรของนิติบุคคลที่เป็นลูกค้าหรืออาจจะเป็นลูกค้าของบริษัทฯ เช่น กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือผู้ติดต่อประสานงานของลูกค้าที่เป็นบริษัท และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่ในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เช่น พยาน ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค 


5. วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

  • ก็บรวบรวมจากท่านโดยตรง เช่น
    • เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ร้องเรียน หรือให้ความเห็น ข้อเสนอแนะหรือคำติชมแก่บริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซต์ อีเมล แอปพลิเคชันที่ใช้ติดต่อสื่อสาร ไปรษณีย์ โทรศัพท์ โทรสาร การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด 
    • เมื่อท่านแสดงเจตนาที่จะใช้บริการจากบริษัทฯ เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ หรือส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้แก่บริษัทฯ  
    • เมื่อท่านลงทะเบียนหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด งานสัมมนา งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของบริษัทฯ 
  • เก็บรวบรวมโดยวิธีการอัตโนมัติ 
    บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยวิธีการอัตโนมัติ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายคุกกี้ 
  • เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นหรือบุคคลภายนอก เช่น
    • ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ติดต่อประสานงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของนิติบุคคลที่ท่านสังกัดอยู่
    • คู่ค้าทางธุรกิจหรือผู้ให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการ Contact Center  ผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน และผู้ให้บริการเก็บข้อมูลและสำรวจความพึงพอใจ
    • บริษัทในกลุ่มธุรกิจภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group)
    • หน่วยงานของรัฐ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า 
    • ในบางกรณี บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน


6. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ประมวลผล
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ได้แก่

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเกิด อายุ เลขประจำตัวประชาชน รูปถ่าย และลายมือชื่อ 
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร อีเมล และ LINE ID
  • ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า เช่น ชื่อและที่อยู่ของบริษัท หน่วยงาน หรือองค์กรที่สังกัด ชื่อตำแหน่ง และที่อยู่ที่ใช้ติดต่อทางการค้า 
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม เช่น รหัสลูกค้า ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดส่งสินค้า ใบส่งสินค้า วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบลดหนี้ ใบเพิ่มหนี้ ใบ Debit Memo ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล ข้อมูลการตรวจลงตรา (Visa) สำเนาใบอนุญาตทำงาน (Work permit) หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ แผนที่ และสัญญาซื้อขายหรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม 
  • ข้อมูลบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ศาสนา 
  • ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน 
  • ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ทะเบียนรถ ประเภทของรถ บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพและจากผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) 


7. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ (รวมกัน เรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด

ลำดับวัตถุประสงค์ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล
1. เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ หรือการดำเนินการตามนโยบายของบริษัทฯฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจหรือดำเนินการตามนโยบายของบริษัทฯ เช่น การเปิดบัญชีและสร้างรหัสลูกค้า (Customer Code) และการบันทึกประวัติและข้อมูลการทำธุรกรรมของลูกค้า
2. เพื่อการตรวจสอบยืนยันตัวตนฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อตรวจสอบยืนยันตัวตน เช่น 
การยืนยันตัวตนเพื่อส่งมอบสินค้า 
3. เพื่อการบริหารจัดการคำสั่งซื้อ หรือการจัดทำสัญญาและดำเนินการตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ และลูกค้า 

ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อจัดทำสัญญาและปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เช่น การเสนอราคาค่าขนส่งและจัดทำใบเสนอราคา การพิจารณาวงเงินสินเชื่อและระยะเวลาการให้สินเชื่อ (Credit term) การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระ การออกใบแจ้งหนี้ การรับชำระเงิน การออกใบเสร็จรับเงิน การจัดส่งสินค้า และการแจ้งสถานะการจัดส่งสินค้า

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เพื่อจัดทำสัญญาและปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล เช่น การใช้ข้อมูลของกรรมการหรือตัวแทนของบริษัทลูกค้าเพื่อประกอบการทำสัญญา และการดำเนินการตามสัญญา  

4. เพื่อการติดต่อสื่อสาร ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับการให้บริการหรือในเรื่องต่าง ๆ เช่น การรับแจ้งปัญหาหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ การตอบข้อซักถามของท่าน และการติดต่อทางธุรกิจ
5. เพื่อการส่งข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบริการและกิจกรรมต่าง ๆ

ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบริการและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การตลาดแบบตรง (Direct Marketing) หรือการส่งข้อความประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางการตลาดให้แก่ลูกค้า 

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อส่งข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับบริการของบริษัทฯ ที่ท่านเลือกใช้ หรือตามที่ท่านได้แจ้งความประสงค์เพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ไว้ และบริษัทฯ แจ้งข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์ในเรื่องดังกล่าว 

ในกรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบริการและกิจกรรมต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า 
เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การแจ้งข่าวสารประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางการตลาดให้แก่ผู้ติดต่อประสานงานของลูกค้าที่เป็นบริษัท

6. เพื่อการจัดกิจกรรมทางการตลาด

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อจัดกิจกรรมทางการตลาด เช่น การลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมหรืองานสัมมนาที่บริษัทฯ จัดขึ้น การถ่ายภาพการเข้าร่วมงานสัมมนาเพื่อนำไปประมวลภาพและประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางการตลาดตามสื่อต่าง ๆ 

ฐานความยินยอม: ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน 

7. เพื่อการจัดการเรื่องร้องเรียนฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียน เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องและปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ
8. เพื่อการตรวจสอบภายใน การพัฒนาคุณภาพการให้บริการ และการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางธุรกิจ การวางแผนการดำเนินงาน การดูแลระบบ IT เพื่อใช้ในการควบคุมภายใน การปรับปรุงเว็บไซต์ การสำรวจความพึงพอใจหรือรับข้อเสนอแนะหรือคำติชมเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการ ตลอดจนการแก้ไขข้อบกพร่องและปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการหรือการดำเนินงาน
9. เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการบัญชี กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของศาล หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกรมสรรพากร ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข: ในบางกรณี การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเนื่องจากบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การแจ้งเกี่ยวกับโรคติดต่ออันตรายต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ 
10. เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและหรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การแจ้งความร้องทุกข์ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และหรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล 
11. เพื่อการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินและบุคคล

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สิน หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินสูญหายหรือเสียหาย 

ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

12. เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอันเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น

ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

13. เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ

บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน














7.2 ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญาที่มีระหว่างบริษัทฯ กับท่าน การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาที่มีกับท่านได้ ในกรณีนี้ บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยุติการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
7.3 ในกรณีที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทฯ จะเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา 

อย่างไรก็ดี หากท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทฯ เก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและเป็นกรณีที่บริษัทฯ อาศัยฐานความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อ 3. ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอถอนความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
7.4 ในกรณีที่บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทฯ จะจัดให้มีประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และหรือมีหนังสือแจ้งไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ท่านควรศึกษาประกาศและหรือหนังสือดังกล่าวร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ 

8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้

  1. บริษัทในกลุ่มธุรกิจภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  2. คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ พนักงานขับรถและผู้ช่วยพนักงานขับรถ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการในเรื่องต่าง ๆ เช่น การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การเก็บบันทึกข้อมูล การชำระเงิน การรับส่งไปรษณีย์ การรับส่งพัสดุ การจัดพิมพ์ การวิเคราะห์ข้อมูล การทำการวิจัย การทำการตลาด การสอบถามความพึงพอใจ การประชาสัมพันธ์งานบริการ Contact Center การให้บริการแอปพลิเคชัน หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ 
  3. ที่ปรึกษาของบริษัทฯ เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด 
  4. ศาลหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายในการขอให้บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  5. บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ 

8.2 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะทำให้มั่นใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมจากท่านก่อนการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

9. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล 
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความจำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนด แนวปฏิบัติของบริษัทฯ และในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด (ถ้ามี) ตลอดจนอายุความตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ธุรกรรมหรือนิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการจัดเก็บหรือออกจากระบบของบริษัทฯ และบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่บริษัทฯ จะสามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปได้ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อและสอบถามได้จากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อ 3. ของประกาศฯ ฉบับนี้

10. สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อ 3. ของประกาศฯ ฉบับนี้

  1.  สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ท่าน 
  2. สิทธิขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น 
  3. สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  4. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
  5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  6. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  7. สิทธิขอถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้กับบริษัทฯ ได้
  8. สิทธิร้องเรียน หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อ 3. ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นคำร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด


11. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ จะแจ้งประกาศฯ ฉบับปรับปรุงให้ท่านทราบผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  15 พฤศจิกายน 2565